ชุมชนเลิกเหล้า ดงยางพรพิบูลย์ จ อุดรธานี

ในปี 2556 ด้วยการแนะนำของศูนย์สุขภาพชุมชนโรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์ ชาวบ้านที่นี่จึงได้เริ่มดำเนินโครงการเพื่อจะนำไปสู่การลดเหล้า โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ภายใต้ชุดโครงการร่วมสร้างชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่โดยสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม (สำนัก 6) ซึ่งมีทีมสนับสนุนวิชาการภาคอีสานเป็นทีมพี่เลี้ยง โดยในการทำงานนั้นได้รวมเอาบ้านดงยางที่เดิมเคยเป็นหมู่บ้านเดียวกันและมีปัญหาแบบเดียวกันเข้ามาทำงานด้วยเกิดเป็นภาพการทำงาน 1 โครงการ 2 หมู่บ้าน ของชาวบ้าน “ดงยาง-พรพิบูลย์” ที่มีการทำงานร่วมกันอย่างลงตัว โดยมี “สภาผู้นำชุมชน” เป็นหัวใจหลักในการค้นหารูปแบบการทำงาน กิจกรรมงานศพปลอดเหล้าถือเป็นกิจกรรมเด่นที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในหมู่บ้าน เพราะอย่างที่บอกไว้ว่า บ้านไหนที่เป็นเจ้าภาพงานศพ นอกจากจะสูญเสียบุคคลในครอบครัวแล้วยังต้องควักเงินจ่ายค่าเหล้าเพิ่มอีก ซึ่งมีแต่เสียกับเสีย ในส่วนของร้านค้าเองก็เข้าร่วมโครงการโดยติดป้ายงดจำหน่ายเหล้าในงานศพและวันพระ ถึงแม้จะสูญเสียรายได้บ้าง แต่เมื่อแลกกับความสุขของหมู่บ้านแล้วทุกคนก็ยอม อีกทั้งยังมีการติดป้ายเชิดชูเกียรติให้แก่บุคคลต้นแบบที่เลิกเหล้าที่ถือเป็นกำลังใจชั้นดีของคนที่เลิกได้และจะเป็นแบบอย่างให้คนที่ยังไม่เลิกได้เห็นคุณค่า ซึ่งบ้านดงยาง-พรพิบูลย์ มีทั้งหมด 5 ป้าย 5 บุคคลต้นแบบ นอกจากนี้ในช่วงเข้าพรรษาที่นี่จะมีธนาคารเหล้า ที่จะเป็นจุดรับฝากขวดเหล้าเปล่าพร้อมเขียนชื่อคนที่ตั้งสัจจะว่าจะงดเหล้าช่วงเข้าพรรษา โดยในแต่ละปีก็จะมีผู้ที่มาลงชื่อและฝากขวดเหล้าในตัวเลขที่น่าพอใจ จุดเด่นของการทำงานที่นี่คือ การร่วมไม้ร่วมมือกัน ทั้งในส่วนของผู้นำชุมชนและสมาชิกลูกบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ที่สำคัญยังต้องดึงภาคส่วนอื่นๆ เข้ามาร่วมเพื่อเติมเต็มในแต่ละบทบาท ทั้งหมดนี้คือผลที่เกิดจากความตั้งใจจริงของชาวบ้านดงยาง-พรพิบูลย์ ที่พอทำงานแล้วก็เกิดผลในวงกว้าง กระทั่งผู้นำท้องถิ่นให้การยอมรับ จนเกิดเป็นนโยบายระดับตำบล ที่จะมีการขยายผลสู่ชุมชนอื่นๆ ทั่วจังหวัด เพื่อให้การพัฒนาท้องถิ่นมีความเข้มแข็งและต่อเนื่อง และไม่เพียงปัญหาเรื่องเหล้าที่ได้รับการแก้ไขเท่านั้น หากแต่รวมถึงแนวทางการแก้ปัญหาชุมชนในเรื่องอื่นๆ ก็พ่วงตามมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการขยะชุมชน ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน รวมถึงงานที่ทำกับเยาวชน เพราะทุกคนที่นี่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ความสุขของชุมชนคือการที่ทุกคนได้อยู่ร่วมกันอย่างเกื้อหนุน และเมื่อเผชิญปัญหาทุกคนต่างก็ทำหน้าที่ในการแก้ไขร่วมกัน และพอแก้ไขประสบผล สิ่งที่ตามมาก็คือความสุขอย่างยั่งยืนนั่นเอง

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ระบุข้อความ