บทเรียนโครงการชุมชนน่าอยู่: โมเดล อปท.ต.หัวรอ พื้นที่บ้านบางพยอม ม.2 จ.พิษณุโลก

บทเรียนการดำเนินงานของกลไกการดำเนินงานโครงการชุมชนน่าอยู่ โมเดล อปท.ตำบลหัวรอ
พื้นที่โครงการชุมชนน่าอยู่ บ้านบางพยอม หมู่ 2 ตำบลหัวรอ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

โดย นางสาวรัตติยา โตจีน
ทีมสนับสนุนวิชาการ หน่วยจัดการชุมชนน่าอยู่ภาคเหนือ

บริบทพื้นที่

บ้านบางพยอมหมู่ที่ 2 ความเป็นมาตามคำเล่าขานของผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านว่า ที่มีมาของชื่อบ้านบางพะยอม มาจากการที่ในสมัยโบราณ หมู่บ้านแห่งนี้มีต้นไม้ที่ชื่อ “ต้นพยอม” อยู่เป็นจำนวนมากหรือเรียกว่าเป็น บางของต้นพยอม สันนิฐานได้ว่ากลุ่มแรกที่เข้ามาอาศัยและเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านน่าจะขยับขยายถิ่นฐานมาจากหมู่บ้านใกล้เคียงซึ่งได้แก่ชุมชนบ้านหม้อ และชุมชนบ้านตาปะขาวหาย สาเหตุในการอพยพเข้ามาก็เพราะการแยกครัวเรือนออกมา เนื่องจากที่อาศัยในถิ่นฐานเริ่มแออัด สภาพทางภูมิศาสตร์ของหมู่บ้านแต่เดิมจะเป็นป่าทั้งหมดจึงตั้งชื่อหมู่บ้านตามชื่อต้นไม้ว่า ‘บ้านบางพะยอม’

บ้านบางพยอม หมู่ที่ 2 มีทั้งหมด 240 ครัวเรือน จำนวนประชากรทั้งสิ้น 678 คน แยกเป็น ชาย 297 คน หญิง 381 คน ประกอบอาชีพหลักได้แก่ รับราชการ รับจ้างทั่วไป ธุรกิจส่วนตัว และพนักงานบริษัท โดยมีอาชีพเสริม ได้แก่ ทำนา ทำสวน และค้าขาย มีกองทุนหมู่บ้าน มีประปาหมู่บ้าน มีกองทุนร่วมบุญ มีชมรมฟุตบอลเยาวชน และวัดบางพยอม

จากการเก็บข้อมูลระดับครัวเรือน โดยใช้แบบสำรวจครัวเรือนชุมชนน่าอยู่ภาคเหนือ ในช่วงเดือนมิถุนายน 2564 สามารถสรุปผลและวิเคราะห์ได้ดังนี้

ข้อมูลความสุขของครัวเรือน พบว่าระดับความสุขของผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป โดยความสุข หมายถึง การรู้สึกดี การมีความสุขกับชีวิต และอยากให้ความสุขนั้นคงอยู่ไม่หายไป โดยคำนึงถึงปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสุขจากสิ่งที่ครัวเรือนและชุมชนมีอยู่ พบว่าคนส่วนใหญ่มีระดับความสุขอยู่ในระดับดี คะแนน โดยพบความสุข ระดับ 5 จำนวน 7 คน ระดับ 6 จำนวน 18 คน ระดับ 7 จำนวน 29 คน ระดับ 8 จำนวน 21 คน ระดับ 9 จำนวน 23 คน ระดับ 10 จำนวน 31 คน ตามลำดับ

ข้อมูลด้านสังคม พบว่า สมาชิกในครัวเรือนได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของชุมชนสม่ำเสมอ คิดเป็นร้อยละ 60 สมาชิกในครัวเรือนได้ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกันในการจัดกิจกรรมให้บรรลุเป้าหมาย เป็นอย่างดี เด็กและเยาวชน ได้รับการส่งเสริมการศึกษาและพบปัญหายาเสพติดในชุมชนบ้างบางครอบครัว

ข้อมูลด้านเศรษฐกิจ พบว่า รายได้ในครัวเรือนไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ไม่มีกลุ่มอาชีพเสริม การดำเนินงานตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงยังไม่ทั่วถึง

ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม พบว่าครัวเรือนมีการจัดการขยะในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น วิธีฝังกลบ ทิ้งถังขยะโดยมีรถขยะจากเทศบาล และเผาขยะ พบว่าครัวเรือนมีการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง จำนวน 130 ครัวเรือน มีการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก ลดใช้กล่องโฟมบรรจุอาหารในกิจกรรมการประชุม อบรม งานศพ งานบุญ และงานประเพณีต่างๆ ของชุมชน นอกจากนี้ยังมีการเฝ้าระวังพื้นที่สาธารณะในชุมชนที่เสี่ยงต่อการทิ้งขยะด้วย จำนวน 2 จุด คือ บริเวณศาลาริมทาง และที่จำหน่ายน้ำดื่ม เป็นต้น

ข้อมูลด้านสุขภาพ พบว่า ผู้ที่สูบบุหรี่ จำนวน 45 คน ผู้ที่บริโภคการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 58 คน ซึ่งในชุมชนมีร้านค้า จำหน่ายบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 3 ร้านและที่ผ่านมาชุมชนยังไม่มีมาตรการหรือข้อตกลงบังคับใช้ร่วมกันอย่างจริงจังในประเพณี งานบุญ งานศพปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ครัวเรือนมีการปลูกผักไว้กินเอง จำนวน 110 ครัวเรือน โดยมีการปลูกผักไว้กินในครัวเรือนอย่างเป็นประจำ จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ตะไคร้,กระเพรา,ข่า,โหระพา,มะกรูด เป็นต้น และครัวเรือนที่ไม่มีการปลูกผักไว้กินเอง จำนวน 130 ครัวเรือน พบผู้ที่รับประทานผักและผลไม้ น้อยกว่า 400 กรัม ต่อ 1 วัน จำนวน 195 คน โดยเมนูอาหารประจำบ้านที่รับประทานเป็นประจำคือ แกงแค, น้ำพริก

นอกจากนี้ยังพบพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่ปลอดภัย ซื้อผักผลไม้ที่ตลาดมาก จำนวน 140 ครัวเรือน มีครัวเรือนซื้ออาหารปรุงสำเร็จรูปมาบริโภค เฉลี่ย 2 มื้อต่อวันจำนวน 132 ครัวเรือน พบผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน จำนวน 35 คน เป็นกลุ่มเสี่ยง 15 คน ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 68 คน มีกลุ่มเสี่ยง 40 คน โรคอ้วน จำนวน 30 คน มีสารเคมีในร่างกายอยู่ในระดับเสี่ยง จำนวน 30 ราย และระดับไม่ปลอดภัย จำนวน 60 ราย

กลไกสภาผู้นำ

การก่อตัวของสภาผู้นำชุมชนเริ่มต้นจากการพี่เลี้ยงชุมชนน่าอยู่โดยนางสาวรัตติยา โตจีน ได้ประสานไปยัง นายสวง พันเรือง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหัวรอ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เคยทำโครงการชุมชนน่าอยู่ปี 2663 เพื่อสอบถามความเป็นไปได้และความพร้อมในการขับเคลื่อนงานชุมชนน่าอยู่ในพื้นที่ตำบลหัวรอและองค์การบริหารส่วนตำบลหัวรอ ซึ่งพบว่าผู้ใหญ่บ้าน มีความสนใจเข้าร่วมโครงการและได้ก่อตั้งโครงสร้างสภาผู้นำชุมชน แรกเริ่มจำนวน 15 คน ปัจจุบันมีสภาผู้นำ 15คน ประกอบด้วยคณะกรรมการหมู่บ้าน อสม. ตัวแทนผู้สูงอายุ และตัวแทนกลุ่มต่างๆในชุมชน

หลังจากการดำเนินงานพบว่า สภาผู้นำบ้านบางพยอม หมู่ 2 มีความเข้าใจเรื่องกลไกสภาผู้นำเพิ่มขึ้น
มีโครงสร้างในการดำเนินงานชัดเจน มีการประชุมประจำเดือน ตั้งกฎกติกา มีการหารือประเด็นการปลูกและบริโภคผักในครัวเรือน รวมถึงประเด็นอื่นๆ ในชุมชนนอกเหนือ จากโครงการ สสส. มีการแบ่งบทบาทหน้าที่ชัดเจนขึ้น โดยประธานเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมหลัก และรายงานผลการดำเนินต่อที่ประชุมทุกครั้ง มีการใช้ข้อมูลในการทำงานเพิ่มมากขึ้นและนำไปปรับใช้ในการทำแผนชุมชนพึ่งตนเอง นอกจากนี้สภาผู้นำยังมีการวิเคราะห์สถานการณ์การดำเนินกิจกรรมของชุมชนอย่างต่อเนื่องและมีการปรับแผนการดำเนินงานภายใต้สถานการณ์การระบาดโควิด 19 ปัจจุบันสภาผู้นำชุมชนมีความเข้มแข็งอยู่ในบันไดผลลัพธ์สภาผู้นำขั้นที่ 3

ในการดำเนินงานของสภาผู้นำมีการดำเนินร่วมกันกับสภาผู้นำชุมชนที่เข้าร่วมโครงการอีก 4 บ้านและร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลหัวรอ ในเรื่องการปลูกและบริโภคผัก โดยมีการตั้งเป้าหมายร่วมกันคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ โดยปลูกผักและบริโภคผักที่ปลูก สร้างสภาผู้นำชุมชนให้มีความเข้มแข็งขึ้น และ เกิดสภาผู้นำตำบล ในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาขยะระดับตำบล เชื่อมต่อกับ อปท. และกลไกระดับตำบลที่มีอยู่

ความสำเร็จเชิงประเด็น

ผลการดำเนินงานเชิงประเด็นด้านการปลูกและบริโภคผัก 400 กรัมต่อคนต่อวัน พบว่าเกิดกลไกสนับสนุนการปลูกผักและกำหนดกติกาจำนวน 5 ข้อได้แก่ ทุกครัวเรือนปลูกผักบ้านละ 5 ชนิด ได้แก่ถั่วฝักยาว บวบ กวางตุ้ง คะน้า แตงกวา ต้องใช้ปุ๋ยชีวภาพในการปลูกผัก ต้องไม่ใช้สารเคมีในการปลูกผัก ต้องปลูกและบริโภคผักอย่างต่อเนื่อง ต้องบริโภคผักที่ปลูกอย่างน้อยวันละ 400 กรัม มีการปลูกผัก 5ชนิดได้แก่ ถั่วฝักยาว บวบ กวางตุ้ง คะน้าและผักกาดขาว เกิดเมนูสุขภาพ 5 เมนูได้แก่ แกงส้มผักรวม แกงเรียงผักรวม แจ่วแกล้มผักสด ต้มยำหัวปลีและผัดผักบุ้ง

ความยั่งยืน

ในการดำเนินงานเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินงานลดปัญหาของชุมชนทางสภาผู้นำได้มีแนวทางการดำเนินงานต่อไปคือ เกิดข้อตกลงร่วมในการปลูกและบริโภคผักปลอดสารระดับตำบล สู่การปฏิบัติและมีการเชื่อมโยงโครงการ”บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ของอำเภอเมืองพิษณุโลก เกิดสภาผู้นำตำบล จากตัวแทนสภาผู้นำชุมชน หมู่บ้านละ 2 คน รวม 12 หมู่บ้าน ในการขับเคลื่อนประเด็นอาหารปลอดภัยระดับตำบล เชื่อมต่อกับ อปท. โดยเทศบาลตำบลหัวรอ บรรจุแผนงานโครงการปลูกและบริโภคผัก เชื่อมต่อกับแผนงาน อปท.ในปีงบประมาณ 2566 จำนวน 12 หมู่บ้าน งบประมาณ 66,000 บาท

ภาพกิจกรรมการดำเนินงานของสภาผู้นำชุมชนบ้านบางพยอม หมู่ 2

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ระบุข้อความ