โครงการชุมชนน่าอยู่ชายแดนใต้: การดูแลผู้สูงอายุ บ้านจือแร ม.3 จ.นราธิวาส ปี 2565
ถอดบทเรียนพื้นที่ต้นแบบ โครงการชุมชนน่าอยู่ชายแดนใต้
บ้านจือแร กลไกสภาผู้นำเข้มแข็งสู่ชุมชนเข้มแข็ง : การดูแลผู้สูงอายุ
โดย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสาวอ ธันวาคม 2565
รู้จักบ้านจือแร
ชุมชนบ้านจือแร ตั้งอยู่ในตำบลสาวอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ห่างจากอำเภอรือเสาะ 7 กิโลเมตร และจากจังหวัดนราธิวาส 57 กิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นเนินเขาและที่ราบ ชาวบ้านส่วนใหญ่มีที่ดินทำกินส่วนตัว มี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน (มี.ค. – มิ.ย.) และฤดูฝน (ก.ค. – ก.พ.) โดยฝนตกชุกสุดในช่วง พ.ย. – ม.ค. อุณหภูมิเฉลี่ย 27°C และความชื้นสูง 60 – 80% อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้ฝนตกไม่ตรงฤดูกาล และฤดูฝนสั้นกว่าฤดูร้อน
หมู่ที่ | ชื่อหมู่บ้าน | จำนวนหลังคาเรือน | จำนวนประชากร | รวม | |
ชาย | หญิง | ||||
3 | จือแร | 196 | 347 | 334 | 681 |
ชุมชนจือแรมีประชากร 681 คน แบ่งเป็นชาย 347 คน หญิง 334 คน มี 196 ครัวเรือน อาชีพหลักคือการเกษตรกรรม เช่น ทำสวน ทำนา และกรีดยาง ประชาชนในชุมชนส่วนใหญ่ (ร้อยละ 100) นับถือศาสนาอิสลาม มีศาสนสถานประกอบพิธีกรรมคือ มัสยิด 1 แห่ง และสุเหร่า 3 แห่ง รวมถึงโรงเรียนตาดีกา 1 แห่ง ชุมชนนี้มีลักษณะเป็นชนบทและใช้ภาษายาวีในการสื่อสาร โดยมี 3 ชุมชนย่อยในพื้นที่
การคมนาคมเข้าสู่หมู่บ้าน ดังนี้ พื้นที่ชุมชนบางส่วนอยู่ติดแม่น้ำสายบุรี โดยเฉพาะเขตตะโละกลูบี มักประสบปัญหาน้ำท่วมทุกปีในช่วงตุลาคม-กุมภาพันธ์ มีผลกระทบต่อ 20 ครัวเรือน อาชีพหลักคือเกษตรกรรม (80%) รองลงมาคือรับจ้าง (17%) และข้าราชการ (3%)
ชุมชนบ้านจือแร มีมัสยิด 1 แห่ง, สุเหรอ 2 แห่ง, โรงเรียนประถม 1 แห่ง และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา 1 แห่ง ใช้เป็นศูนย์รวมกิจกรรมของชุมชน รวมทั้งสนามหน้ามัสยิดที่เป็นลานกีฬาและอาคารอเนกประสงค์ ส่วนชุมชนบ้านบือเจาะ มีสนามกีฬากลางที่ใช้เป็นลานบินของกองทัพในการเยี่ยมประชาชน
ความไม่น่าอยู่ของบ้านจือแร
จากการวิเคราะห์ประเมินชุมชนของสภาผู้นำชุมชนบ้านจือแร เมื่อเข้ามาร่วมดำเนินโครงการกับชุดโครงการชุมชนน่าอยู่ ได้ใช้เครื่องมือสามเหลี่ยมปัญหา และต้นไม้ปัญหามาวิเคราะห์ความไม่น่าอยู่ของบ้านจือแร ซึ่งพบว่า
การวิเคราะห์จุดอ่อน / จุดแข็งและปัญหา / ศักยภาพของหมู่บ้าน
จุดอ่อน / ปัญหา |
จุดแข็ง / ศักยภาพ |
ด้านเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อม |
|
– ขยะจรริมถนนใหญ่ – ภาวะหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ – ต้นทุนในการผลิตสูง/ราคาผลผลิตตกต่ำ – การใช้สารเคมีในการเกษตร – ไม่มีอาชีพเสริม/ว่างงาน – ไม่มีกลุ่มอาชีพที่เป็นรูปธรรม – ไม่มีตลาดรองรับสินค้าในชุมชน – ขยะมูลฝอย/ดินเสื่อม – พื้นที่น้ำท่วม |
– แหล่งโบราณคดี แหล่งประวัติศาสตร์ ของชุมชน – มีภูมิปัญญาท้องถิ่น ผลิตด้ามกริชโบราณ – มีกลุ่มแม่บ้าน – มีกลุ่มทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ |
ด้านสุขภาพอนามัยและยาเสพติด |
|
– โรคเรื้อรังเพิ่มสูงมากขึ้นในทุกวัยของคนในชุมชน – ขาดการออกกำลังกาย/อุปกรณ์การออกกำลังกาย – ขาดความรู้ในการดูแลสุขภาพและบริโภคอาหารที่ปลอดภัย – ยาเสพติด/การลักเล็กขโมยน้อย – ครอบครัวแตกแยก – อยู่ห่างไกล รพ.สต. 7 กิโลเมตร |
– มี อสม.ในหมู่บ้านที่พร้อมทำงาน – มีการรณรงค์ในการควบคุม การดูแลรักษาสุขภาพ |
ด้านความรู้และการศึกษา |
|
– ขาดความรู้ในการบริหารจัดการชุมชน – ไม่สนใจข่าวสารและการอ่าน |
– มีแกนนำหมู่บ้านพร้อมจะบริหารจัดการชุมชน – มีแหล่งความรู้ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น |
ด้านการมีส่วนร่วมและความเข้มแข็งในชุมชน |
|
– มีส่วนร่วมในทำงานของชุมชนน้อย – ขาดการบริหารจัดการกลุ่มที่ดี |
– กิจกรรมตามประเพณีที่ยังก่อการรวมตัวของคนในชุมชนได้ |
ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติฯ |
|
– การใช้สารเคมีในการเกษตร | – มีกลุ่มทำนาปลอดสารพิษ – มีกลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษ |
ตารางวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา / แนวทางแก้ไข
จุดอ่อน / ปัญหา | สาเหตุของปัญหา | แนวทางแก้ไข | ||
ด้านโครงสร้างพื้นฐาน | ||||
– ไม่มีประปาหมู่บ้าน | – น้ำเป็นตะกอนบริโภคไม่ได้ – น้ำท่วมทุกปี |
– ส่วนหนึ่งซื้อน้ำขวดดื่ม – ที่มีรายได้ซื้อเครื่องกรองน้ำ |
||
ด้านเศรษฐกิจ |
||||
– รายจ่ายมากกว่ารายได้ – ค่าครองชีพสูง – ราคาผลผลิตตกต่ำ – หนี้สิน – ว่างงาน |
– ขาดการมีส่วนร่วม – การบริโภคฟุ่มเฟือย – ราคาต้นทุนการผลิตสูง – ไม่มีการรวมกลุ่มกันทำ – ค่าใช้จ่ายสูง/สินค้าราคาแพง – มีรายได้ไม่ต่อเนื่อง – เงินลงทุนมีน้อย |
– สร้างการเรียนรู้ในการบริหารจัดการกลุ่ม – ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น – สร้างฐานการผลิตอาหารเอง (ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์) – ผลิตพลังงานทดแทน – จัดหาทุนในการประกอบอาชีพ – สร้างอาชีพเสริม – สร้างงานในหมู่บ้าน – ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพใช้เอง – ส่งเสริมการต่อยอดงานฝีมือช่างผลิตด้ามกริชโบราณที่มีความสวยงาม |
||
ด้านสุขภาพและยาเสพติด |
||||
– สุขภาพอนามัย/โรคเรื้อรัง – การบริโภคอาหารปนเปื้อน – ขาดความรู้ในการดูแลสุขภาพ |
– การใช้สารเคมี – กินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ – ขาดการออกกำลังกาย – หน่วยบริการสาธารณสุขส่งเสริมสุขภาพไม่จริงจัง |
– ลดการใช้สารเคมีในการเกษตร – ส่งเสริมการออกกำลังกาย – ตรวจคัดกรองสารเคมีตกค้างในเลือด – ตรวจสุขภาพปี ละ 2 ครั้ง |
||
ด้านความรู้และการศึกษา |
||||
– ขาดความรู้ในการบริหารจัดการชุมชน – ไม่สนใจข่าวสารและการอ่าน – ครอบครัวยากจนขาดโอกาสทางการศึกษา |
– ไม่มีโอกาสในการเรียนรู้ | – จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพทีมผู้นำชุมชน – ทำป้ายประชาสัมพันธ์ สร้างกลุ่มไลน์ชุมชน – ส่งเสริมให้เด็กยากจนได้รับทุนการศึกษา |
||
ด้านการมีส่วนร่วมฯ |
||||
– มีส่วนร่วมในทำงานของชุมชนน้อย – ขาดการบริหารจัดการกลุ่มที่ดี |
– ไม่เห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมในชุมชน – ไม่มีเวลา มุ่งทำงานหารายได้ |
– จัดกิจกรรมส่งเสริมการทำงานแบบมีส่วนร่วม – สร้างกลุ่ม รวมกลุ่มจากอาชีพหลักให้มากขึ้น – ส่งเสริมให้ครัวเรือนมีอาชีพเสริม – อบรมให้ความรู้เรื่องการตั้งกลุ่มอาชีพ |
||
ด้านทรัพยากรธรรมชาติฯ |
||||
– การใช้สารเคมีในการเกษตร
|
– ขาดความรู้ความเข้าใจการทำการเกษตรแนวใหม่ | – ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยชีวภาพ – รวมกลุ่มผลิตปุ๋ยชีวภาพ – ส่งเสริมการผลิตอาหารที่ปลอดภัย |
||
– การปลูกพืชเชิงเดี่ยว | – การส่งเสริมจากภาครัฐ | – การคืนพันธุกรรมท้องถิ่น – การทำสวนผสมผสาน – การส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรริมแม่น้ำสายบุรี |
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น