นักเรียน “โรงเรียนบ้านเขางาม” สุขภาพดีเพราะ “กินผัก”

La disfunción eréctil puede estar relacionada con una variedad de problemas de salud subyacentes, como enfermedades cardíacas, diabetes o altos niveles de estrés. Sorprendentemente, se estima que afecta a aproximadamente el 52% de los hombres entre 40 y 70 años en diferentes grados. Además, hay quienes buscan soluciones a través de medicamentos que requieren receta, mientras que otros consideran alternativas más accesibles, como el hecho de “. Este enfoque puede tener implicaciones en la salud, por lo que es fundamental consultar a un profesional médico antes de tomar cualquier decisión. La concienciación sobre la disfunción eréctil ha aumentado, lo que permite a más hombres buscar ayuda y tratamiento de manera proactiva.

La disfunción eréctil puede ser un indicador de problemas de salud subyacentes, como enfermedades cardiovasculares o diabetes, y a menudo puede afectar la autoestima y las relaciones personales. Además, hay tratamientos disponibles que pueden ayudar a manejar esta condición; algunos hombres optan por métodos alternativos como cambiar su estilo de vida o buscar medicamentos. Por ejemplo, es posible que algunos busquen “, aunque se recomienda consultar a un profesional de la salud antes de tomar cualquier medicamento. La clave está en abordar el problema con seriedad y buscar las opciones de tratamiento adecuadas.

นักเรียน “โรงเรียนบ้านเขางาม” สุขภาพดีเพราะ “กินผัก”

“ครู-ผู้ปกครอง” รวมพลังสร้าง “สุขนิสัย” ให้เด็กและเยาวชน

อาหารกลางวันที่โรงเรียนจัดให้แก่เด็ก ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงให้นักเรียนอิ่มท้องเท่านั้น แต่ต้องเป็นอาหารที่มีคุณค่าและมีคุณภาพ เพียงพอที่จะให้เด็กในวัยกำลังเจริญเติบโตได้รับสารอาหารครบถ้วนทุกหมวดหมู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับประทานผักและผลไม้ ซึ่งเด็กส่วนใหญ่มักจะปฏิเสธ จึงจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตั้งแต่ในวัยเด็กเพื่อ เพื่อสร้างให้เกิดสุขนิสัยในการรับประทานอาหารอย่างถูกต้องเหมาะสม

จากคำบอกเล่าของ ครูเกศประภา ฉุ้นประดับ ให้ข้อมูลว่า โรงเรียนบ้านเขางาม ตำบลบ้านกลาง  อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เป็นโรงเรียนขนาดเล็กเปิดสอนชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนทั้งสิ้น 86 คน ชุมชนรอบๆ ส่วนใหญ่ร้อยละ 95 นับถือศาสนาอิสลาม อาหารกลางวันของโรงเรียนส่วนใหญ่แม่ครัวมักปรุงอาหารที่ทำจากเนื้อ ไก่ และไข่ ไม่มีผักเป็นส่วนประกอบหลัก มีเพียงแตงกวาและถั่วเพียงเล็กน้อย

และจากการสังเกตพบว่าผักเหล่านี้มักถูกเด็กเขี่ยออก ไม่ยอมรับประทาน ขณะเดียวกันก็ไม่เคยมีผลไม้อยู่ในอาหารมื้อกลางวันเลย จึงได้เข้าร่วมกิจกรรมตามแนวทางการสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพขนาดเล็ก ปี 2559 ภายใต้ชื่อ “โครงการส่งเสริมการบริโภคผัก ผลไม้เพื่อสุขภาพในโรงเรียนบ้านเขางาม”  โดยการสนับสนุนของ สำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคผักและผลไม้ของเด็กๆ

“ต้องเข้าใจว่าที่นี่เป็นชุมชนอิสลาม แม่ครัวก็ทำอาหารที่มีพวกเนื้อ ไก่และไข่เท่านั้น ไม่มีผัก เอาความสะดวกเข้าว่า เด็กเองก็ไม่ค่อยชอบกินผัก อยู่ที่บ้านผู้ปกครองก็ไม่ได้ฝึกให้กิน ไม่รู้ความสำคัญของการกินผักผลไม้ ครูเองก็ไม่สนใจมีอาหารกลางวันให้เด็กแล้วก็คิดว่าเพียงพอแล้ว อย่างพวกผลไม้นี่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีให้เด็กได้กินเลย” คุณครูเกศประภาเล่าปัญหาเบื้องต้นที่ต้องเผชิญ

ครูเกศประภา กล่าวว่าเมื่อพบปัญหาเด็กไม่กินผักทางโรงเรียนจึงได้ประชุมบุคลากร ตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินงาน คัดเลือกแกนนำนักเรียนเข้าร่วม ประชุมชี้แจงขั้นตอนการทำงาน เปิดเวทีเชิญวิทยากรจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกลาง มาให้ความรู้ประโยชน์ของพืชผักผลไม้แต่ละชนิด ขณะเดียวกันก็พัฒนาศักยภาพของแม่ครัวสร้างตัวอย่างเมนูที่มีผักเป็นส่วนประกอบให้ปรุง ให้นักเรียนและคณะทำงานช่วยกันคิดเมนูที่มีผักผลไม้ในแต่ละเดือนเพื่อให้แม่ครัวไปทำเป็นอาหารกลางวัน

“ผ่านไปหนึ่งเดือนกลับไปประเมินผลยังพบว่าแม่ครัวไม่ได้ทำตามเมนูที่วางเอาไว้ เพราะด้วยความเคยชิน ก็ต้องมาคุยกันใหม่ คราวนี้ให้ยึดตามเมนูที่ช่วยกันคิด ยึดอาหารหลัก 5 หมู่ แต่จะต้องมีผักผลไม้ทุกครั้ง ครูเองก็ต้องช่วยเอาผักผลไม้มาทำเมนูเสริมขาย 5 บาท เช่น ยำผัก ยำผลไม้ 6 ชนิด เอาถั่วฝักยาวมายำผสมเนื้อปลา ทำลูกชิ้นปลาอินทรีขายแต่ต้องกินกับผักจึงจะขายให้” ครูเกศประภาระบุ

ขณะเดียวกันก็ดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการกินผักอย่างต่อเนื่อง เช่นให้นักเรียนแกนนำจัดรายการเสียงตามสายช่วงพักเที่ยง ผลัดกันให้ข้อมูลประโยชน์ของการกินผัก จัดทำกิจกรรม “ผัก ผลไม้ชัก” แบบเดียวกับชาชักเพื่อสร้างความสนใจ เชิญวิทยากรจาก รพ.สต.บ้านกลางมาให้ความรู้ โดยมีผู้ปกครองเข้าร่วม ขณะเดียวกันก็จัดทำหนังสือเล่มเล็กเนื้อหาเกี่ยวกับประโยชน์ของผัก นำการ์ตูนที่เด็กชอบมาเป็นสื่อประกอบให้เด็กระบายสี อีกทั้งยังบูรณาการกิจกรรมร่วมกับ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ให้นักเรียนเลือกเข้าค่ายทักษะชีวิต การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผัก ผลไม้ การทำอาหารจากผักผลไม้ กิจกรรมการปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษของนักเรียนระดับชั้น ป.5- ป.6 ส่งผลให้ล่าสุดจากการสำรวจพบว่าการบริโภคผัก ผลไม้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 92.5 จากเดิมที่มีอยู่เพียงร้อยละ 61

ทางด้าน ณัฐิดา เขานุ้ย ผู้ปกครอง กล่าวว่ารู้สึกพอใจที่โรงเรียนมีโครงการส่งเสริมให้เด็กได้กินผัก โดยปกติที่บ้านปลูกผักอยู่แล้ว แต่ลูกไม่ชอบกินผักมากนัก จึงบอกประโยชน์ของผักให้ลูกทราบ หาวิธีให้ลูกได้กินผักที่ไม่เคยกิน โดยเลือกผักที่มีสีสันมาประกอบอาหาร พยายามสร้างสุขนิสัยให้เด็กได้กินผัก ซึ่งการทำงานร่วมกับโรงเรียนก็ทำให้ลูกปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและกินผักได้มากชนิดขึ้น

ส่วน ด.ช.ธีรพงศ์ ประหยัดทรัพย์ แกนนำนักเรียนกล่าวว่าปกติชอบกินผักผลไม้ต่างๆ เมื่อได้มาเป็นแกนนำก็ต้องเป็นตัวอย่างคอยสอดส่องให้รุ่นน้องๆ กินผักในช่วงรับประทานอาหารกลางวัน และมีหน้าที่ผลัดกันกับเพื่อนจัดรายการเสียงตามสาย ให้ข้อมูล ประโยชน์จากผักมาเล่าให้รุ่นน้องๆ ฟัง ในช่วงพักรับประทานอาหาร

การทำให้เด็กๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรับโดยหันมาประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และบริโภคผักและผลไม้เพิ่มขึ้น เป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการจับมือร่วมกันระหว่างบ้านและโรงเรียนและภาคีเครือข่าย ผ่านการรณรงค์และจัดกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยมีสุขนิสัยที่ถูกต้องเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะติดตัวและเป็นพื้นฐานของเด็กแต่ละคนไปตลอดทั้งชีวิต.

Shares:
QR Code :
QR Code